เมนู

อาทิว่า ผู้หลงแล้ว ทำกรรมแม้ใดด้วย กาย วาจา ใจ ดังนี้ และโดยนัย
มีอาทิว่า ดูก่อนพรหมณ์ ผู้หลงแล้วแล ถูกโมหะครอบงำแล้ว ผู้มีจิตถูก
โมหะหุ้มห่อแล้ว คิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง ดังนี้ และโดยนัยมีอาทิว่า
ผู้หลงลืม ย่อมไม่รู้ประโยชน์ตน ตามความเป็นจริงบ้าง ดังนี้.
บทว่า ตาลปกฺกํว พนฺธนา ความว่า โทสะอันพระโยคาวจร
นั้นละได้ คือสลัดออกได้จากจิต เพราะการเกิดขึ้นแห่งมรรคญาณที่ 3 เหมือน
ผลตาลหล่นจากขั้ว เพราะไออุ่นเกิดขึ้น. บทว่า โมหํ วิหนฺติ โส สพฺพํ
ความว่า พระอริยบุคคลนั้น ฆ่า คือกำจัด ได้แก่ ตัดขาดซึ่งโมหะทั้งหมด
คือไม่ให้เหลือด้วยมรรคที่ 4. บทว่า อาทิจฺโจ วุทยํ ตมํ ความว่า
เหมือนพระอาทิตย์ อุทัย คือโผล่ขึ้น กำจัดความมืด คือ อันธการ ฉะนั้น.
จบอรรถกถามลสูตรที่ 9

10. เทวทัตตสูตร


ว่าด้วยพระเทวทัตเยียวยาไม่ได้เพราะอสัทธรรม 3


[269] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัตผู้อันอสัทธรรม 3 ประการ
ครอบงำย่ำยีจิตแล้ว เป็นผู้เกิดในอบาย เกิดในนรก ตั้งอยู่ตลอดกัป เยียวยา
ไม่ได้ อสัทธรรม 3 ประการเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัต
ผู้อันความเป็นผู้มีความปรารถนาลามกครองงำย่ำยีจิตแล้ว เป็นผู้เกิดในอบาย
เกิดในนรก ตั้งอยู่ตลอดกัป เยียวยาไม่ได้ พระเทวทัตผู้อันความเป็นผู้มีมิตร